CALTECH เข้าได้ถ้าเก่งพอ
ต้องยอมรับจริงๆว่าในปัจจุบัน ว่าด้วยเรื่องของมหาวิทยาลัยการได้ออกเรียนในต่างประเทศดูจะเป็นเหมือนกับช่องทางในการเปิดประสบการณ์ให้กับนักเรียนนักศึกษาได้ดี แต่บางครั้งเราอาจจะได้ยินแค่มหาลัยใหญ่ๆหรือเป็นชื่อที่ได้ยินส่งต่อกันมามหาวิทยาลัย
แต่ถึงอย่างนั้นยังจะให้เรียนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหรือดูจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับโลก บางแห่งอาจจะดูย้อนไปถึงประวัติคนในครอบครัว โดยเฉพาะนามสกุลหรือธุรกิจที่บ้านมีเพื่อเป็นการใช้ตัววัดสำคัญในการรับเข้าศึกษาต่อ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกมหาวิทยาลัยเป็นแบบนั้น จริงๆมีอีกหนึ่งแห่งที่เรียกว่ามีชื่อเสียงอยู่พอสมควรแต่เด็กไทยบางกลุ่มอาจยังไม่รู้จัก
California Institute of Technology หรือ Caltech ที่เป็นชื่อย่อของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ดูจะเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์มากที่เดียวโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องราวหรือพื้นเพความเป็นมาของครอบครัว ขอเพียงแค่ผู้ที่จะเข้ามาเป็นนักศึกษานั้นเป็นคนที่เก่งมากเพียงพอเพียงเท่านั้นก็สามารถที่จะเข้าเรียนที่นี่ได้อยู่แล้ว
แล้วจะว่าไปมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ไม่ได้น้อยไปกว่า MIT หรือมหาวิทยาลัยอื่นๆในอเมริกาเลยด้วยซ้ำ และออกจะเป็นชั้นนำด้วยเช่นเดียวกัน ที่สำคัญมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีอายุมาแล้วกว่า 128 ปีซึ่งถือว่ามีความเก่าแก่มากทีเดียว
ถ้าจะถามว่าทำไมมหาวิทยาลัย Caltech ดูจะน่าสนใจในหมู่ของเด็กเก่งก็คงจะต้องบอกเลยว่าสำหรับที่นี่นั้นมีชื่อเสียงมากทีเดียวเลยด้านงานวิจัยต่างๆรวมถึงความเฉพาะด้านสำหรับวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสาขาที่จำเป็นในโลกมากเลยตอนนี้
แล้วจริงแล้วอีกเรื่องที่โดยทั่วไปคนยังจะไม่ค่อยรู้จักกันสักเท่าไหร่คือไม่ว่าจะเป็นทั้งนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์คนก็ยกให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ดูจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในอเมริกา นั่นเป็นเพราะการคัดนักศึกษาเข้าไปเรียนซึ่งจะต้องใช้ทรานสคริป รวมถึงผลสอบ SAT พี่จะต้องอยู่ในระดับที่มากกว่า 700 คะแนนขึ้นไป
สำหรับสถาบันแห่งนี้มีจะมีความโดดเด่นมากทีเดียวในเรื่องของการทำวิจัยเรียกว่าปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆที่จะอำนวยความสะดวกในด้านของการทำวิจัยได้ดีทีเดียว
แต่สำหรับนักศึกษาที่จะเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ต้องบอกก่อนว่าต่อให้จะมีความสามารถในด้านของการทำคะแนนขึ้นมาได้ดีขนาดไหน แต่ถ้าหากว่าเข้ามาเรียนแล้วไม่มีการเตรียมพร้อมไม่มีการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆบอกเลยว่าในระหว่างที่เรียนอยู่อาจจะไปไม่รอดจนถึงขั้นจะต้องลาออกเลยด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็เป็นตัวการันตีอย่างแท้จริงว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้รับเฉพาะคนเก่งจริงๆ
และที่สำคัญการแข่งขันภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้สูงมากกว่าปกติ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเรียนรู้ในการรับความกดดันจากการเรียนที่ได้