MIT – Massachusetts Institute of Technology หรือสถาบันที่รู้จักกันในชื่อ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ MIT สถาบันที่ครอบครองอันดับต้น ๆ ของโลกในทุกศาสตร์สาขา
“ จิตใจและมือ (Mind and Hand)” เป็นคติคำขวัญประจำใจของสถาบัน ซึ่งครอบคลุมภารกิจเพื่อการพัฒนาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และให้ทุนการศึกษาที่ช่วยให้โลกเป็นสถานที่ที่ดีขึ้น
+ การก่อตั้ง
MIT ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2404 (ค.ศ. 1861) เริ่มแรกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ของนักแก้ปัญหาและผู้ที่ชื่นชอบวิทยาศาสตร์ มาวันนี้ได้พัฒนาเป็นสถาบันการศึกษา มีอาจารย์มากกว่า 1,000 คน และนักศึกษามากกว่า 11,000 คน
MIT ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ทอดยาวไปตามฝั่งเคมบริดจ์ของลุ่มน้ำชาร์ลส์ วิทยาเขตมีสถานที่สำคัญที่ออกแบบโดย สถาปนิก Alvar Aalto, Frank Gehry และ Steven Hollin รวมถึงอาคารในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลายยุคสมัย ตั้งแต่นีโอคลาสสิกไปจนถึงสมัยใหม่
MIT เป็นมหาวิทยาลัยอิสระที่มีการศึกษาร่วมกัน และได้แบ่งออกมาเป็น 5 โรงเรียน คือ สถาปัตยกรรมและการวางแผนวิศวกรรมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ สังคมศาสตร์ และการจัดการวิทยาศาสตร์
MIT มี 32 คณะรวมอยู่ใน 5 โรงเรียน (School) ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เลิศที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) มีผู้ได้รับรางวัลโนเบล 81 คน ได้รับเหรียญวิทยาศาสตร์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Medal of Science) 52 คน ได้ทุนการศึกษาโรดส์ สคูลาร์ส 45 คน เป็น MacArthur Fellow 38 คน เป็น Fields Medalists 2 คน
MIT เป็นมหาวิทยาลัยที่เข้ายากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2561 (ค.ศ. 2018) มีผู้สมัคร 18,356 คน สถาบันรับไว้ 1,447 คน คือ มีอัตราการรับผู้สมัคร เพียงร้อยละ 7.9
+ การพัฒนา
วิทยาเขตมีการรวมตัวหลายแห่งในย่านเคมบริดจ์ รวมถึง Kendall Square ซึ่งเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ทันสมัยที่สุดในโลก โดยสมาคมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและการวิจัย มีวัฒนธรรมในการเริ่มธุรกิจ ได้ช่วยให้ศิษย์เก่าของ MIT ทำธุรกิจได้มากกว่า 30,000 บริษัท สร้างงาน 4.6 ล้านตำแหน่ง สร้างรายรับประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี รายได้ของบริษัทที่ศิษย์เก่าช่วยกันตั้งขึ้น เทียบเท่ากับเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ของโลก
เพราะการพัฒนาทางอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น MIT ใช้วิธีบริหารตามรูปแบบของ มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคของยุโรป ที่เน้นการศึกษาในห้องปฏิบัติการ และเน้นเรื่องเทคโนโลยีประยุกต์ในระดับปริญญาตรี และระดับบัณฑิตศึกษามาตั้งแต่ต้น จึงมีการร่วมมือกันพัฒนาอย่างใกล้ชิดร่วมกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
ใน พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) ภายใต้การดูแลของอธิการบดีคาร์ล คอมป์ตัน และรองอธิการบดีแวเนวาร์ บุช สถาบัน MIT ได้เริ่มเปลี่ยนไปเน้น การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
ในปี พ.ศ. 2477 (ค.ศ. 1934) MIT ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก สมาคมมหาวิทยาลัยอเมริกัน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของการศึกษาและงานวิจัยของสถาบัน
+ การปรับปรุงหลักสูตร
ในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950) ได้ก่อตั้ง โรงเรียนมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และสังคมศาสตร์ (HASS – MIT School of Humanities, Arts, and Social Sciences) และ โรงเรียนการบริหารสโลน (MIT Sloan School of Management) เพื่อแข่งขันกับ โรงเรียนวิทยาศาสตร์ (MIT School of Science) และ โรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ (MIT School of Engineering) ที่มีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้ว
ดังนั้น คณะการศึกษาในสาขาเศรษฐศาสตร์ การบริหาร รัฐศาสตร์ และภาษาศาสตร์ ที่ก่อนหน้านี้ไม่สำคัญ จึงได้เจริญขึ้น และเป็นคณะที่มีบทบาทในการดึงดูดศาสตราจารย์ต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงมาสู่คณะ
+ งานวิจัย
นักวิจัยของ MIT อยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาในด้านปัญญาประดิษฐ์ ด้านการปรับสภาพภูมิอากาศ ด้านเอชไอวี ด้านมะเร็ง และด้านการบรรเทาความยากจน
ในขณะที่งานวิจัยของ MIT ที่ผ่านมา ยังได้กระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เช่น การประดิษฐ์หน่วยความจำแกนแม่เหล็ก การพัฒนาเรดาร์
+ กิจกรรม
ศิลปะวัฒนธรรมยังคงแทรกซึมอยู่ในสถาบัน มีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ 12 แห่ง มีพิพิธภัณฑ์ MIT ซึ่งดึงดูดผู้เข้าชม ปีละเกือบ 125,000 คน
การเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีของ MIT ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการทำกิจกรรมต่าง ๆ
นักเรียนและคณาจารย์ของ MIT มีส่วนร่วมในกลุ่มดนตรี กลุ่มเต้นรำ กลุ่มนักเขียน และกลุ่มการละคร
นักศึกษาของ MIT ประมาณร้อยละ 20 เข้าร่วมทีมกีฬา และเป็นตัวแทนนักกีฬาในโปรแกรมกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกด้วย